สมเด็จสัพพัญญู วัดโพธิ์แมน พระอาจารย์โพธิ์แจ้ง ปี02

สมเด็จสัพพัญญู วัดโพธิ์แมน พระอาจารย์โพธิ์แจ้ง พ.ศ.2502 ที่มีมวลสารพระสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหักชำรุด มากกว่าที่ผสมในบางขุนพรหม 09 ที่เป็นเช่นนั้นเพราะพระรุ่นนี้ใช้ชิ้นส่วนแตกหักของสมเด็จพระบางขุนพรหมเป็นมวลสารหลักครับ สำหรับราคาเช่าหาไม่แพงมากแต่พุทธคุณล้นเหลือ

0...พระพิมพ์สมเด็จพระสัพพัญญู หรือสมเด็จวัดโพธิ์แมน สร้างขึ้นโดยพระมหาคณาจารย์จีน ธรรมสมาธิวัตรฯ(โพธิ์แจ้ง) ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาส วัดโพธิ์แมนคุณนาราม สาธุประดิษฐ์ ปีพ.ศ. 2500 มีการเปิดกรุของวัดบางขุนพรหม และพบพระสมเด็จ ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต ) พรหมรังสี สร้างไว้จำนวนมากและมีบางส่วนที่แตกหัก ,ต่อมาในปี พ.ศ.2502 จอมพลประภาส จารุเสถียร ได้นำชิ้นส่วนที่แตกหักมามอบให้กับท่านพระอาจารย์โพธิ์แจ้งฯ วัดโพธิ์แมนคุณนาราม เพื่อให้สร้างพระเครื่องขึ้นเพื่อแจก ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน ขณะที่จอมพลประภาสได้นำชิ้นส่วนสมเด็จบางขุนพรหมฯที่แตกหักมาถวายนั้น

0...ท่านพระอาจารย์โพธิ์แจ้งฯกล่าวว่า ชิ้นส่วนเหล่านี้มีพุทธคุณสูงมาก จึงได้ให้ศิษย์ไปขอเพิ่มเติมจากทางวัดบางขุนพรหม อีกจำนวนหนึ่ง และเมื่อท่านอาจารย์ ทราบว่าชิ้นส่วนที่แตกหักนี้เป็นชิ้นส่วนสมเด็จบางขุนพรหมฯของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต ) พรหมรังสี ได้สร้างไว้ในอดีต ท่านพระอาจารย์โพธิ์แจ้งฯ ถึงได้อุทานออกมาว่า ” มิน่าเล่า พุทธคุณถึงสูงนัก ”

0...ท่านพระอาจารย์โพธิ์แจ้งฯ ท่านก็ได้นำชิ้นส่วนสมเด็จบางขุนพรหมฯทั้งหมด มาบดอีกครั้งหนึ่ง และนำปูนใหม่ผสมเข้าไปเล็กน้อย เพื่อเป็นตัวประสานใหม่ และนำผงมวลสารทั้งหมด กดออกมาเป็นพระพิมพ์ได้จำนวนประมาณ 10,000 องค์ และนำเข้าบรรจุเข้ากรุ ประมาณ 7,000 องค์ เหลืออีก 3,000 องค์เท่านั้นที่ถูกนำมาแจกจ่าย แก่ทหารที่ไปราชการสงคราม
0...และท่านพระอาจารย์โพธิ์แจ้งฯได้นำแจกจ่ายไปตามวัดสาขาของวัดมหายานในประเทศไทย เท่าที่ทราบก็มีที่จังหวัด กาญจนบุรี, ชลบุรี ทำให้พบสมเด็จสัพพัญญูนี้ ที่จังหวัดกาญจนบุรี และชลบุรี อยู่เช่นกัน ,รูปแบบพิมพ์พระสมเด็จพระสัพพัญญู ด้านหน้าเป็นองค์พระพุทธปฏิมาแบบจีน ประทับนั่งปางมารวิชัย บนฐานบัวคว่ำบัวหงาย ในกรอบสี่เหลี่ยม ด้านหลังเรียบ แต่บางองค์อาจมีตรายางประทับไว้ว่า พระสมเด็จสัพพัญญู รุ่นแรก 2502 วัดโพธิ์แมนคุณนาราม โดยสีของหมึกมีทั้งม่วงและชมพู สมเด็จสัพพัญญูเป็นพระพิมพ์เดียวแต่หลายฝีมือ (ทั้งพระทั้งเณรช่วยกันกดด้วยมือ) พระจึงไม่สวยงาม ไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร